การดูแลสุขภาพ

9 วิธีถนอมสายตา สำหรับเกมเมอร์

วิธีถนอมสายตา ถือเป็นการรักษาสายตาจากความเหนื่อยล้าหลังทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ตาต้องจ้องแสงนานๆ อย่างเช่น การเล่นโทรศัพท์ ดูทีวี ทำงานในคอมพิวเตอร์ และการอ่านหนังสือ เป็นต้น ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมา เป็นสิ่งที่ใช้กันทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเด็กเล็ก เด็กโต วัยรุ่น หนุ่มสาว จนถึงรุ่นพ่อแม่ ลุงป้าน้าอา และสิ่งที่ตามมาก็คือ อาการปวดตา แสบตา เมื่อยล้าดวงตา และสายตาเสีย โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอ หรือเล่นเกม เล่นโซเชียลมากเกินไป และอ่านหนังสือในที่แสงไม่เพียงพอ แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะสายเกินไป โดยในวันนี้เราได้นำวิธีทำกิจกรรมต่างๆ โดยยังถนอมสายตาได้ด้วย เอาล่ะ ไปดูกันเลยยยย วิธีถนอมสายตา

1. ไม่จ้องหน้าจอใกล้เกินไป

ไม่ว่าจะเป็นการดูโทรทัศน์หรืออ่านหนังสือ การเพ่งสายตามากจนเกินไปจะทำให้เสียสายตาได้ ดังนั้น ควรให้ระยะห่างของตากับหน้าจอประมาณ 1 ฟุต เป็นอย่างน้อย จะช่วยป้องกันสายตาเสียได้ และไม่ควรห่างมากเกินไปจนต้องเพ่ง

2. ปรับตัวอักษรบนหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น

หากสังเกตเห็นว่าตัวอักษรบนหน้าจอสมาร์ทโฟนตัวเล็กจนต้องเพ่งถึงจะอ่านได้ชัดแล้วล่ะก็ วิธีที่จะช่วยก็คือ ตั้งค่าขนาดตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่สายตาเริ่มแย่ ดังนั้นการปรับขนาดตัวอักษรจะช่วยป้องกันอาการปวดตาได้

3. ปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสม

หากหน้าจอมืดเกินไป หรือสว่างจ้าเกินไป ล้วนไม่ดีต่อสายตาทั้งนั้น จึงขอแนะนำให้ตั้งค่าความสว่างให้เหมาะสมกับสายตาตนเอง เอาที่ใช้แล้วรู้สึกสบายตาที่สุด หรืออาจติดฟิล์มถนอมสายตากันแสงสีฟ้าบนหน้าจอสมาร์ทโฟนก็พอจะช่วยได้เหมือนกันนะ

4. ไม่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ในที่มืด

การจ้องมองอะไรในที่มืดล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างมาก เพราะ เราต้องเพ่งสายตามากกว่าปกติ และรูม่านตาเราต้องขยายมากขึ้น ซึ่งแสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์จะทำร้ายสายตาเราได้ ดังนั้น จึงควรใช้คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอเท่านั้น อีกทั้งการอ่านหนังสือก็ควรอ่านในที่มีแสงเพียงพอ

5. พักสายตาบ้าง

การจ้องหน้าจอหรืออ่านหนังสือนานๆ ทำให้สายตาเมื่อยล้า และพร่าเบลอ หากจำเป็นต้องทำงานอยู่หน้าจอเป็นเวลานาน อย่างน้อยควรพักสายตาทุกๆ 30-40 นาที โดยการหลับตาลงประมาณ 1-2 นาที หรือจองมองออกไประยะไกลๆ การมองทิวทัศน์ที่เป็นสีเขียว อย่างวิวต้นไม้ใบหญ้า ก็ช่วยให้สายตาผ่อนคลายได้ดีขึ้นเช่นกัน

6. กระพริบตาบ่อยๆ

เวลาเราใช้สายตาเพ่งหรือจ้องอะไรนานๆ อัตราการกระพริบตาของเราจะลดลง ซึ่งแบบนี้ไม่ดีกับด้วยตา เพราะจะทำให้ดวงตาแห้ง ไม่มีน้ำตามาหล่อเลี้ยง และเกิดอาการแสบตาได้ วิธีแก้ไขคือพยายามกระพริบตาบ่อยๆ เพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้นขึ้น ซึ่งจะช่วยลดอาการแสบตาได้ หรือจะหยอดน้ำตาเทียมก็ช่วยได้เช่นกันแต่การหยอดนํ้าตาเทียมควรปรึกษาเเพทย์ก่อน

7. ใช้ผ้าชุบน้ำประคบรอบดวงตา

หลังใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์นานๆ ดวงตาเราจะอ่อนล้า ซึ่งการใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ มาวางทับหรือประคบรอบดวงตาเป็นเวลา 2-3 นาที จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นขึ้น อีกทั้งทำให้ผิวรอบดวงตาชุ่มชื้น ไม่แห้งเหี่ยวอีกด้วย

8. ทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา

พืชผักผลไม้ที่อุดมด้วยแคโรทีน ลูทีน และซีแซนทีน เช่น แครอท ฟักทอง มะละกอสุก ผักบุ้ง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ จะช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเสื่อมสภาพของดวงตา และทำให้การมองเห็นของเราดีขึ้น

9. ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี

บางครั้งสายตาเราอาจเสื่อมลง มีสายตาสั้น ยาว เอียง ผิดปกติโดยที่เราไม่รู้ตัว ยิ่งเราจ้องหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์มากๆ ก็ยิ่งทำให้สายตาแย่ลง และยิ่งรู้สึกไม่สบายตามากขึ้น เราจึงควรไปตรวจสายตากับจักษุแพทย์ทุกปี หากสายตาเริ่มมีปัญหาก็แก้ไขโดยการสวมแว่นหรือคอนแทคเลนส์สายตาที่เหมาะสม

เป็นยังไงกันบ้างครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ ดวงตามีคู่เดียวนะเอ่อ ดูแลกันให้ดีนะ ยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีเต็มไปหมดแบบนี้ หวังว่าจะนำวิธีต่างไปใช้กันน้า อ้อและเรายังมี สัตว์เลี้ยงสามารถช่วยรักษาโรคได้ ด้วยนะเอ้อ